พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ : สุดยอดนักแบดมินตันวัย 12 ปี
ถ้าเกิดคุณเสิร์ช คำว่า “น้องพิ้งค์” ลงบนกูเกิล ผลสรุปที่ได้กลับมา จากเว็บไซต์เสิร์ชเอ็นจิ้น มีชื่อ เป็นรูปภาพของสาวน้อยสวยหวาน แล้วก็ข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องราวของนักแบดวัย 12 ปี จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ชื่อ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์
พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ กิตติศัพท์ของคุณ ได้รับการเฝ้าดูไม่น้อย ในแวดวงแบดมินตันไทย ภายหลังปัดกวาดแชมป์ ในระดับเยาวชนเยอะมากหลายรายการ อีกทั้งในประเทศไทย รวมทั้งต่างแดน ความต้องการอยากจะรู้อยากจะเห็นจะในตัวคุณ มากขึ้นเรื่อยๆเรื่อยนักเขียนก็เลยเริ่มเดินทางจากจ.กรุงเทพฯฯ สู่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อคุย กับเด็กผู้หญิงอัศจรรย์คนนี้
ระหว่างนั่งรถจักรยานยนต์ เพื่อออกมาจากเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ไปอีก 10 กม. เพื่อสนทนากับคุณ ความกลุ้มอกกลุ้มใจ เกิดขึ้นในตัวของคนเขียน การพูดคุยกันกับเด็กวัย 12 ปี บางทีไม่ใช่สิ่งที่ง่ายนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคนแก่ ที่เติบโต และก็รู้เรื่องโลกใบนี้มากยิ่งกว่า
คนเขียนพาตนเอง มาหยุดที่สนามแบดมินตันฯ ขนาดเล็กแห่งหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในท่าอากาศยาน ก็เลยได้มองเห็นหญิงสาวหน้าใส กำลังเป็นจริงเป็นจังซ้อมอยู่ในคอร์ต ซึ่งพวกเรารับทราบได้โดยทันทีว่า คุณคนนั้นเป็นน้องพิ้งค์
เมื่อการสัมภาษณ์เริ่ม คนเขียนได้รู้ว่า อายุ 12 ปี เป็นเพียงจำนวน เด็กคนนี้เติบโต มากยิ่งกว่าที่คิดไว้ รวมทั้งเปลี่ยนเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้คุณก้าวขึ้นมาเป็นนักแบดมินตันที่น่าจับตาอีกคนหนึ่งของเมืองไทย
“หนูเริ่มเข้าสนาม ตั้งแต่อายุ 1 ขวบจ้ะ เพราะว่าพ่อของหนู (พิพรรธน์ โอภาสนิพัทธ์) เป็นผู้ฝึกสอนสอนแบดมินตันอยู่แล้ว ออกมาจากโรงหมอ ได้ไม่นาน พ่อก็พามาที่คอร์ตแบดมินตันเลยจ้ะ” น้องพิ้งค์ ย้อนถึงจุดกำเนิดกับกีฬาแบดมินตัน
“จากนั้น อายุโดยประมาณสัก 2-3 ขวบ หนูเริ่มจับไม้มาตีเอง ด้วยเหตุว่ามองเห็นพี่ๆคนอื่นๆเล่นกัน แล้วมีความคิดว่า มันน่าสนุกดี หนูก็ตีเล่นๆทำท่าตีเอาอย่างพี่ๆคนอื่นๆที่เขาเล่นกัน จับไม้มาตีลูกอัดกับกำแพงบ้าง ตีเล่นกับป๊ะป๋าบ้าง ข้างหลังป๋าสอนแบดมินตันเสร็จ”
ความเพลิดเพลิน ในกีฬาแบดมินตัน ที่ก่อตัวข้างสนามแบดมินตัน ของน้องพิ้งค์ ไม่พ้นสายตาของป๋าพิพรรธน์ เมื่ออายุน้องพิ้งค์นับขึ้นเลข 4 ป๊ะป๋าก็เลยพาคุณมาเริ่มฝึกซ้อมตีแบดมินตันอย่างเป็นจริงเป็นจัง ราวกับนักแบดคนอื่นๆทั่วๆไป
ความสามารถพิเศษ ที่อยู่ในตัว บวกกับการฝึกการสอนที่เข้มข้น ทำให้ความสามารถสำหรับเพื่อการเล่นแบดมินตันของน้องพิ้งค์ ปรับปรุงอย่างเร็ว ด้วยวัยเพียงแต่ 5 ปี น้องพิ้งค์ก็เลยได้เริ่มลงหยั่งดูท่าทีการแข่งขันชิงชัยอย่างเป็นทางการ คราวแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่
“หนูมิได้นึกถึงผลแพ้ชนะเลยจ้ะ คิดเพียงแค่ว่าพวกเราเล่นแบดมินตัน ลงไปเล่นให้สนุกสนานก็เพียงพอ” น้องพิ้งค์ เล่าถึงความรู้สึก ที่ลงสู่สนามแข่งเป็นครั้งแรก
“ในขณะนั้นก็ฝึกซ้อมทุกวี่ทุกวันนะคะ แม้กระนั้นมิได้มุ่งมั่นอะไรมากมาย ด้วยเหตุว่ายังไม่เคยทราบว่าตนเองจะไปได้ไกลเพียงใด ขั้นแรกๆหนูแพ้บ่อยมากด้วย แพ้พวกรุ่นพี่ เพราะว่าอายุเพียงแค่ 5-6 ขวบ จำต้องแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี”
เหตุผลที่น้องพิ้งค์ จำต้องผ่านอายุ ลงเล่นในรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี เนื่องจากว่านี่เป็นรุ่นอายุที่ต่ำที่สุด สำหรับเพื่อการชิงชัยแบดมินตันในประเทศไทย อย่างไรก็ดีสำหรับน้องพิ้งค์ ความแพ้พ่าย ไม่ใช่เรื่องที่ห่วยแตกเสมอ
“ขณะที่พบผู้ที่เก่งกว่า พวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีความรู้สึกว่า พวกเราจะแพ้หรือชนะ เนื่องจากมีแม้กระนั้นผลในด้านที่ดี ถ้าหากพวกเราชนะ ดีแล้วไป แต่ว่าถ้าหากแพ้ พวกเราก็ได้ทำความเข้าใจ ได้เติบโตขึ้น พวกเราไม่ต้องเครียด ไม่ต้องบีบคั้น ไปกับผลของการแข่งขัน”
“พอเพียงตอนหนูอายุ 8 ขวบ หนูได้แชมป์สองรุ่น ทั้งยังอายุไม่เกิน 8 ขวบ กับ 10 ขวบ ในเวลานั้นหนูเลยตกลงใจ ฝึกแบบเข้มข้น เป็นจริงเป็นจังจ้ะ ด้วยเหตุว่าหนูรู้สึกแล้วว่า ตัวเราคงจะมีความเข้าใจเพียงพอ ที่จะไปตามฝัน ไปได้ไกล ตามแผนการที่หนูหวังไว้ เป็น การไปแข่งชิงชนะเลิศโลก รวมทั้งกีฬาโอลิมปิก”
ด้วยรูปร่าง สรีระ ที่สูงใหญ่มากยิ่งกว่าเด็กรุ่นราคราวเดียวกัน ร่วม 170 เซ็นต์ ของน้องพิ้งค์ รวมทั้งคำชมเชยจากคนรอบด้าน ถึงความสามารถพิเศษ สำหรับเพื่อการใช้สกิลแฮนด์เวิร์ค (Handwork) ทำให้น้องพิ้งค์ ตีลูกได้ถูกต้อง มีน้ำหนักที่ดี ที่สามารถ สร้างความเป็นต่อ ในตอนการแข่งขันชิงชัย
“แต่ว่าหนูว่าการจะบรรลุผลสำเร็จ มันอยู่ที่ความสามารถพิเศษ และก็พรแสวง ถ้าหากไม่มีพรแสวง เก่งเพียงใด พวกเราก็ไปไม่ถึงวัตถุประสงค์” น้องพิ้งค์ แสดงความเห็น ที่ผิดแผกแตกต่างออกไป ถึงที่มา ของการบรรลุผล
“ในหนึ่งอาทิตย์ หนูฝึกซ้อมทุกวี่วันเลยจ้ะ วันปกติจะฝึกซ้อม 3 ชั่วโมง รวมทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ จะฝึกซ้อมอีก 5 ชั่วโมง มีอีกทั้งฝึกซ้อมตีลูกให้แม่น ฝึกลูกความสามารถ ที่จะให้พวกเรามีทีเด็ด มากยิ่งกว่าบุคคลอื่น ฝึกความถนัดต่างๆรวมทั้งจำเป็นต้องฝึกหัดวิ่ง ด้วยจ้ะ เพื่อกระปรี้กระเปร่าสำหรับในการเคลื่อน ครั้งก่อนจะวิ่งอาทิตย์ละครั้ง แม้กระนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หนูจะวิ่ง เพิ่มเป็นอาทิตย์ละ สองครั้งแล้วจ้ะ”
“ถ้าเกิดถามหนูว่า ฝึกซ้อมหนักมากมายไหม หนักมากมายจ้ะ” คำตอบของน้องพิ้งค์ ทำให้ท่านบิดาพิพรรธน์ ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอบกลับมาทันครั้งว่า “ไม่จริง พิ้งค์ฝึกซ้อมไม่หนักเลย ยังมีนักกีฬาแบดมินตัน อีกหลายๆคนฝึกซ้อมหนักกว่าพิ้งค์เยอะแยะ”
กีฬาแบดมินตัน มิได้คือเรื่องของกำลังเพียงแค่นั้น จุดเด่นของเว็บ LSM99 เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน ในกีฬาประเภทนี้ รวมทั้งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดความรู้ความเข้าใจของนักแบดมินตันหลายท่าน รวมทั้งตัวน้องพิ้งค์ ด้วยอย่างเดียวกัน
“ในกีฬาแบดมินตัน การใช้ความนึกคิด สำคัญมากๆจ้ะ เพราะว่าจะช่วยทำให้การเคลื่อนที่ลดน้อยลงมากมาย ถ้าเกิดพวกเราอ่านเขาออก พวกเราจะเคลื่อนลดลง พวกเราคุมเกมได้ พวกเราได้เป็นคนระบุเกม พวกเราเป็นต่อ ถ้าหากพวกเราอ่านไม่ออก พวกเราก็เสียเปรียบ”
“การเล่นแบดจะต้องจัดการกับปัญหา เฉพาะหน้า ให้เป็นด้วยจ้ะ แบดมินตันเป็นกีฬา ที่จำเป็นต้องใช้สมองเป็นระบบ คุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่ บอกอยู่ตลอดว่า หนูจะต้องใช้สมองเป็นจำนวนมาก”
“ที่ตรงนี้หนูเห็นว่า เป็นเสน่ห์ของแบดมินตันนะคะ ทำให้หนูถูกใจแบดมินตัน เนื่องจากช่วยเพิ่มความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้พวกเรา หนูจะต้องคิดตลอดระยะเวลา ตอนเล่นแบด จะต้องคิดล่วงหน้าตลอด ใช้สมองมากมาย หนูว่าแบดมินตัน ช่วยปรับปรุง ความนึกคิดของหนู ในทุกวัน”
“หนูจำเป็นต้องแบ่งเวลาให้ดีจ้ะ เวลาเรียนก็เรียน เวลาเล่นก็เล่น พ่อบอกหนู ตั้งแต่เด็กว่า หนูจำต้องยอมเมื่อยล้ากว่าเด็กผู้อื่น ถ้าเกิดมีการบ้าน ที่สั่งมาเวลาเช้า ตอนกลางวันหนูก็จำเป็นต้องทำการบ้าน จะต้องไม่ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนฝูง”
“ส่วนการบ้านช่วงเวลาเย็น ก็เบาๆทำตอนที่มีเวลาว่าง หรือเก็บไปทำข้างหลังฝึกเสร็จ มีเวลาว่างตอนไหน จำเป็นต้องทำการบ้าน เบาๆทำ เบาๆเก็บไป จะไปวิ่งเล่นแบบบุคคลอื่นมิได้ จำเป็นต้องแบ่งเวลาดำเนินงานให้ถูก”
สำหรับเด็กวัย 12 ปี การแบ่งเวลาชีวิต ไม่แตกต่างจากคนแก่วัยทำงาน เป็นภาระหน้าที่ที่นักหนาไม่น้อย จะต้องตั้งใจจริงกับทั้งยังเรื่องเรียน รวมทั้งการเล่นกีฬา จนกระทั่งครั้งคราว หน้าที่ อันเกินวัยของคุณ นำมาซึ่งการทำให้ความเมื่อยล้า ความห่อเหี่ยว เข้ามาเป็นปัญหาของน้องพิ้งค์